นร.วัย 17 ปีติดเชื้อ HIV ตั้งแต่อยู่ในท้อง สู้ชีวิตไม่เคยท้อ ขอโอกาสเรียนต่อ

วันที่ 24 ส.ค. 2565 นายยุทธนา แรกขึ้น นายอำเภอสรรคบุรี นายเผด็จ สุพันธนา ผอ.โรงเรียนคุรุประชาสรรค์ นายวันชัย ยอดดำเนิน

~

~

นายกเทศมนตรีตำบลดงคอน พร้อมคณะครูและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ บ้านของ นางสาวณัชนิชา ตุ้มหอม หรือน้องจ๋า อายุ 17 ปี ในพื้นที่ ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อมอบข้าวสารอาหารแห้ง และเงินสด เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น เนื่องจากเป็นครอบครัวยากจน ตัวของนางสาวณัชนิชา ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์) รับเชื้อจากมารดาตั้งแต่กำเนิด

~

~

อาศัยอยู่กับปู่ชื่อ นายริน ตุ้มหอม อายุ 79 ปี ส่วนแม่เสียชีวิต พ่อต้องโทษ แต่ด้วยโรคร้ายที่ไม่พึงประสงค์และได้รับมาตั้งแต่เด็ก ทำให้การใช้ชีวิตนั้นค่อนข้างลำบาก ถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนมาเกือบทั้งชีวิต ใครๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้ แต่ก็กัดฟันอดทนมาได้จนถึงตอนนี้

~

~

สำหรับ น้องจ๋า เป็นคนมีจิตใจเมตตา จิตใจดี มีวินัย และมีความรับผิดชอบ ประกอบกับมีผลการเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่า อยากเรียนต่อให้จบมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีเงินเรียน ทางบ้านได้รับเงินสงเคราะห์จากเทศบาลฯ เดือนละ 500 บาท ปู่ได้รับเงินคนชราเดือนละ 1,000 บาท ออกไปทำงานรับจ้างฉีดยาข้าวก็ได้เดือนละ 1 พันกว่าบาท รวมๆ มีรายได้เดือนละไม่ถึง 3,000 บาท ตอนนี้เรียนฟรีตามโครงการของรัฐ เงินที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน หรือสิ่งของ ทางโรงเรียน อำเภอ ทางเทศบาล เป็นผู้ดูแล แต่เงินที่จะเรียนมหาวิทยาลัยนั้นไม่มี

นางสาวณัชนิชา ตุ้มหอม เปิดเผยว่า ตนถูกบูลลี่มาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นรู้สึกน้อยใจและเครียดมาก แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้น

~

~

เพราะโตขึ้น เพื่อนๆ ก็รู้ว่าโรคนี้ไม่ได้ติด หรือน่ากลัวอย่างที่คิดกัน ส่วนตัวอยากเรียนต่อ อยากเรียนอะไรก็ได้ที่จบมาแล้วมีงานทำ จะได้มีเงินมาเลี้ยงปู่ที่แก่มากแล้วแต่ยังต้องทำงานและหาเลี้ยงตนมาตั้งแต่แบเบาะ เมื่อสองสามปีก่อนตนเคยป่วย เพราะตนเป็นโรคหอบด้วย ถึงกับชัก ปู่ต้องเอาเชือกมัดไว้ที่หลังแล้วพาไปโรงพยาบาล ปู่เหนื่อยมามาก จึงอยากมีเงินเป็นทุนการศึกษาไว้เรียน แล้วมาทำงานเลี้ยงปู่ต่อไป

เมื่อพูดถึงการติดเชื้อ HIV นั้น เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่หากเราศึกษาข้อมูลแล้วจะพบว่า ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยโรคเอดส์ สามารถใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวได้ ขอเพียงคนรอบข้างเข้าใจและเปิดใจ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจและการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างปลอดภัย จะติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ สารคัดหลั่งเลือด

~

~

จากการใช้เข็มฉีดยา ได้รับเลือดที่มีเชื้อผ่านบาดแผล เยื่อบุ จากแม่สู่ลูกในครรภ์ และการให้นมบุตรเท่านั้น

~

~

จึงอยากให้สังคมมองมุมใหม่ ให้โอกาสผู้ติดเชื้อ เหมือนที่หลายๆประเทศยอมรับ